“ บ้าน คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด อยู่แล้วสบายใจที่สุด เป็นที่ที่พร้อมให้เราทิ้งตัวได้แบบไร้กังวล แต่ในขณะเดียวกัน “บ้าน” ก็นำมาซึ่งความเหนื่อยหน่าย เพราะมักสร้างปัญหามากมายอย่างไม่จบสิ้น โดยเฉพาะปัญหาเล็กๆ น้อยๆ”
10 ปัญหายอดฮิตที่มักพบบ่อยภายในบ้าน
บ้าน คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด อยู่แล้วสบายใจที่สุด เป็นที่ที่พร้อมให้เราทิ้งตัวได้แบบไร้กังวล แต่ในขณะเดียวกัน “บ้าน” ก็นำมาซึ่งความเหนื่อยหน่าย เพราะมักสร้างปัญหามากมายอย่างไม่จบสิ้น โดยเฉพาะปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นภายในบ้านที่เราไม่ควรมองข้าม หากปล่อยไว้นานๆ อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่กวนใจเจ้าของบ้านได้ วันนี้ SKI ร้านสะดวกช้อปบ้านและฮาร์ดแวร์ ได้รวบรวมปัญหาภายในบ้านที่หลายคนมักพบเจอมาฝาก พร้อมวิธีแก้ไขจะมีอะไรบ้างนั้นตามมาดูกันได้เลยค่ะ
เป็นปัญหาที่มักจะพบกับบ้านที่เป็นพื้นไม้ กระเบื้องยาง พื้นลามิเนต หรือแม้กระทั่งพื้นไม้จริง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนจะทำให้เกิดปัญหานี้กับพื้นไม้บ่อยครั้ง เนื่องจากต้องเจอกับความชื้นของน้ำฝนที่สาดเข้ามา หรือน้ำรั่วเข้าบ้าน จนเกิดความชื้นสะสมอยู่หลังแผ่นพื้นเป็นจำนวนมาก กระทั่งทำให้พื้นโก่งตัวและบวมขึ้น >> ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการ รื้อพื้นเดิมออก หรือทำกันซึม หรือ ทาน้ำยา กันเชื้อรา ทิ้งไว้จนแห้งแล้วจึงทำพื้นใหม่
อาจจะมีสาเหตุมาจากการปูกระเบื้องที่ไม่ได้มาตรฐาน บางท่านนิยมปูแบบซาลาเปา ซึ่งเป็นเหตุให้มีความชื้นสะสมตัวหลังแผ่นกระเบื้องได้ง่าย รวมไปถึงการเว้นระยะกระเบื้องน้อยจนเกินไป ทำให้ไม่มีพื้นที่ให้กระเบื้อง ได้ขยายตัว จึงทำให้เกิดปัญหากระเบื้องโก่งตัวจนระเบิด >> ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการรื้อกระเบื้องที่ระเบิดออกให้หมด แล้วสกัดเศษปูนขาวที่หลงเหลืออยู่ออก จากนั้นทำความสะอาดพื้นผิว แล้วปูกระเบื้องใหม่ด้วยกาวซีเมนต์
มักจะเกิดจากความชื้น ที่มีสาเหตุมาจากท่อน้ำบริเวณฝ้าเพดานรั่วซึม >> ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการเปิดฝ้าเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง แล้วทำการซ่อมแซม จากนั้นค่อยทาสีทับบริเวณรอยด่าง
จุดอ่อนของการติดวอลเปเปอร์ คือกาวที่มีโอกาสหลุดได้ง่าย รวมไปถึงวิธีการติดตั้งที่ผิดวิธี กล่าวคือ ติดในตอนที่ปูนยังไม่แห้งดี ทำให้ความชื้นเข้าสู่แผ่นวอลเปเปอร์และลอกร่อนได้ง่ายนั่นเอง >> ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการใช้พู่กันจุ่มกาวลาเท็กซ์ทาบางๆ หลังแผ่นวอลเปเปอร์ แล้วแปะเข้าที่เดิม แต่หากหลุดเป็นบริเวณกว้างควรติดต่อช่างมาซ่อมแซมโดยเฉพาะ
มีสาเหตุมาจากการฉาบปูนที่ได้มาตรฐาน ซึ่งหากไม่ได้รับการซ่อมแซม อาจจะทำให้เกิดความชื้นสะสมในรอยแตกจนนำไปสู่การเกิดเชื้อราและตะไคร่น้ำ >> ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ ด้วยการเคาะผนังเพื่อตรวจสอบความลึกของรอยแตกงา กรณีไม่เกิน 0.5 mm หากมีเสียงโปร่งแปลว่าปูนฉาบไม่เกาะผนัง ให้สกัดปูนเริ่มออกแล้วฉาบใหม่ทั้งหมด แต่ถ้าหากยังมีเสียงแน่นดี ให้ใช้ปูนโป๊ว โป๊วบริเวณรอยแตกแล้วทาสีทับ
เกิดจากการติดตั้งหน้าต่างและประตูไม่แนบกับวงกบ รวมไปถึงวัสดุอุดรอยต่อเสื่อมสภาพ >> ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการขูดซิลิโคนอุดรอยเดิมออก ทำความสะอาด แล้วแปะเทปกาวข้างขอบที่รั่วซึม จากนั้นจึงยิงซิลิโคนใหม่ตามกรอบหน้าต่างและวงกบประตู
เกิดจากสาเหตุต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการที่ไม่มีหน้าต่างระบายอากาศอย่างเพียงพอ ไม่มีช่องลมระบายอากาศ หลังคาไม่ได้ติดตั้งฉนวนกันร้อน หรือแดดส่องเข้าทางหน้าต่างมากเกินไป ทำให้เกิดความร้อนสะสม >> ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการใช้สีทาบ้านเย็น ติดฟิล์มที่หน้าต่าง หรือติดม่านกันแสงและม่านกันความร้อน เพื่อลดความร้อนสะสมในบ้าน
ปัญหานี้สังเกตเห็นได้ง่ายในช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะบริเวณสันหลังคา >> แก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนแผ่นกระเบื้องหลังคาที่ชำรุด หรือใช้วัสดุอุดรอยต่อรอยรั่ว แล้วทาอะคลิลิกกันซึมทับหลังคา
สารพัดปัญหาไม่ว่าจะเป็นน้ำหยด แอร์ไม่เย็น ค่าไฟเยอะกว่าที่ควรจะเป็น เกิดจากการใช้เครื่องปรับอากาศเป็นเวลานาน ทำให้เสื่อมสภาพ หรือการไม่ล้างแอร์เป็นเวลานานทำให้แอร์ไม่เย็นหรือมีกลิ่นอับ >> แก้ไขได้โดยการตรวจสอบความผิดปกติ และล้างแอร์อย่างเต็มระบบทุก 6 เดือน หากใช้งานมาเกิน 10 ปี ควรเปลี่ยนรุ่นใหม่ เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ปัญหาเล็กๆ ที่เกิดจากฝีมือเราเอง แต่ก่อปัญหายิ่งใหญ่ นั่นก็คือความสกปรกที่นำมาซึ่งเชื้อโรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแช่จานชามทิ้งไว้โดยไม่ทันได้ล้าง การสะสมหมักหมมขยะโดยไม่ทิ้ง เป็นต้น >> แก้ไขได้ด้วยการหมั่นทำความสะอาด หรือจ้างแม่บ้านทำความสะอาด ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันเชื้อโรคสะสม
ปัญหาเหล่านี้ที่กล่าวมา เป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้นได้ในบ้านและสามารถเริ่มแก้ไขได้ด้วยตัวคุณเอง ทางที่ดีควรหมั่นตรวจสอบ แก้ไขและซ่อมแซม ตั้งแต่ที่ยังเป็นปัญหาเล็กๆ ก่อนที่จะลุกลามเป็นปัญหาใหญ่เกินจะแก้ไข จนต้องเสียทรัพย์มากมาย ลองนำวิธีข้างต้นไปปรับใช้จะช่วยให้เราอยู่บ้านได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้นนะคะ